SEVENDAYNEWS

ทำดีได้ดี   มีที่ไหน .! ทำชั่วได้ดี   มีที่ไทย .!?? ยิ่งอัปรีย์   จัญไร   ยิ่งได้ดี .!? ( ยุติธรรมในมือมาร ) เมื่อทนายแผ่นดินสิ้นคิด .!? พ่ายแพ้อิทธิฤทธิ์มหาเศรษฐี .! บิดเบือนกฎ - บดบังกรรมวิธี .! ยุติธรรมก็ป่นปี้ในมือมาร.! กระบวนการยุติธรรมต่ำเตี้ย .! กฎหมายอ่อนเปลี้ยเสียฐาน .! คนถือกฎ   มดเท็จ   อหังการ .! ยุติธรรมอันตรธาน   ความเท่าเทียม .! “ หาใช่คำพูดที่เพียงให้ดูเท่ห์ อีกต่อไป.! จากเหตุการณ์ข่าว .! การที่สั่งไม่ฟ้องคดี  “ บอส ”( นายวรยุทธ   อยู่วิทยา   ทายาทกระทิงแดง )  สร้างความเคลือบแคลงใจประชาชนด้าน  “ สุจริต - เที่ยงธรรม ”  ต่อกระบวนการกฎหมายและยุติธรรมอย่างมาก .!  สังคมไทยไม่เคยตั้งข้อกังขาต่ออัยการขนาดนี้มาก่อน .! การที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง .! และ   ตำรวจไม่แย้งคำสั่งครั้งนี้   ไม่เพียงนำมาซึ่งความหยามหมิ่นและสิ้นสูญความเชื่อถือต่อองค์กรตำรวจและอัยการเท่านั้น .!  ยังบั่นทอน  “ สถาบันอำนาจ ”  ในระบอบประชาธิปไตย   ส่งผลกระทบถึง  “ สถาบันบริหาร ”  คือรัฐบาล “ สถาบันตุลาการ ”  คือศาลอีกด้วย .! ผบ . ตร . ก็เห็นดี - เห็นงามกับคำสั่งไม่ฟ้องอัยการ  “ ไม่เห็นแย้ง ”  ทำให้คดีทั้งหมดจบสิ

วันนี้  (31  กรกฎาคม  2563)  เวลา  14.29  น .  พลเรือเอก   ลือชัย   รุดดิษฐ์   ผู้บัญชาการทหารเรือเป็นประธานในพิธีปล่อยเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง   เรือ ต .114  และเรือ   ต .115  จำนวน  2  ลำ   ลงน้ำ   โดยมีนาวาเอกหญิง   อุบลวรรณ   รุดดิษฐ์   นายกสมาคมภริยาทหารเรือ   ในฐานะภริยาผู้บัญชาการทหารเรือ   เป็นสุภาพสตรีผู้ประกอบพิธีปล่อยเรือ   ณ   อู่ต่อเรือ   บริษัท   มาร์ซัน   จำกัด   ตำบลท้ายบ้าน   อำเภอเมืองสมุทรปราการ   จังหวัดสมุทรปราการ กองทัพเรือมีความต้องการจัดหาเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง   จำนวน  2  ลำ จากอู่เรือภายในประเทศโดยใช้แบบ   เรือ   ต .111  เป็นแบบพื้นฐานสำหรับการจัดหา   โดยปรับปรุงหรือพัฒนาระบบและส่วนประกอบให้สามารถรองรับความต้องการใช้งานทางด้านยุทธการที่เป็นปัจจุบัน เพื่อให้มีขีดความสามารถในการถวายความปลอดภัยแด่พระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์   การลาดตระเวนตรวจการณ์   การคุ้มครองเรือประมงและเรือสินค้า   การป้องกันและต่อต้านการก่อการร้ายในทะเลและท่าเรือ   การป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายในทะเล   การรักษากฎหมายในทะเลตามอำนาจหน้าที่   ที่กองทัพเรือได้รับมอบหมาย   รวมทั้งสนับสน

“ผลิตภัณฑ์เส้นไหม” และ “การส่งเสริมการเลี้ยงไหม” เป็นหนึ่งในแนวคิดของการพลิกฟื้นวิถีชุมชน และวิถีเกษตรกรรมไทย จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด -19 ซึ่งเป็นปัจจัยส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และวิถีชีวิตของคนไทย ชุมชน และภาคเกษตรไทย กลายมาเป็น ภารกิจ พันธกิจสำคัญของ “กรมหม่อนไหม” ในการที่จะเข้ามามีบทบาทขับเคลื่อนแนวทางการ “สร้างเศรษฐกิจฐานราก ให้กับทั้งชุมชน และภาคการเกษตรไทย” โดยมี “ไหม” ที่จะกลับมาเป็นพืชเศรษฐกิจ ที่จะช่วยสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับระบบเศรษฐกิจ “ นายสันติ    กลึงกลางดอน    รองอธิบดีกรมหม่อนไหมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์   กล่าวถึง   เส้นทางของ  “ ไหม ”  และการดำเนินการตามโครงการฯ   ว่า  “ เรื่องของไหม   และผลิตภัณฑ์จากไหม   อยู่คู่กับสังคมไทย   มาตั้งแต่สมัยโบราณ   จากดินแดนแถบสุวรรณภูมิ   เป็นเกษตรพื้นบ้าน   เป็นสินค้าพื้นถิ่น   โดยเริ่มต้นจากในภาคอีสานของไทย    ซึ่งหากจะมองจากประวัติศาสตร์ของไทยไหมก็มีมาตั้งแต่ช่วงสุโขทัย   และมีการค้าขายกับต่างประเทศ   นับเป็นพืชเศรษฐกิจ เป็นภูมิปัญญาที่อยู่คู่กับประวัติศาสตร์ ภาคการเกษตรและชุมชนของไทยมายาวนาน     “งานหม่อนไหมดังกล่าวเป็นจุดเริ

บิ๊กตู่ “ พล . อ . ประยุทธ์   จันทร์โอชา ”  นายกรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบการบริหารราชการแผ่นดิน .! ท่านอย่าปล่อยให้ความศักดิ์สิทธิ์ความ “ ยุติธรรม ”  ถูกลบหลู่ดูแคลนจากทั้งสังคมไทยและสังคมโลก .!? เพราะกรณีที่สำนักงานอัยการสูงสุดมีคำสั่งไม่ฟ้องคดี   นายบอส   อยู่วิทยา .! “ เพราะทั้งรูปคดี ”  การดำเนินการสอบสวนต่างๆ   ถูกสังคมตั้งคำถามอย่างมาก .! รวมไปถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ .!? ที่ไม่พอต่อการสั่งฟ้องได้   ซึ่งเรื่องนี้   ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ   และสำนักอัยการสูงสุด   ต้องอธิบายให้สังคมฟังว่าเกิดอะไรขึ้น .!  เพราะตอนนี้ประชาชนกำลังขาดความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม   ซึ่งต้องมีการปฎิรูปอย่างเร่งด่วน .!  ผู้คนทั้งสังคม  ( อึดอัด - คับข้อง - อารมณ์คุกรุ่น )  อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น .!  โดยเฉพาะทางม็อบเยาวชนที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่นี้ก็จะหยิบประเด็นนี้ไปเคลื่อนไหวด้วยอย่างแน่นอน .! อยากได้มธุรสชโลมใจลดความ “ อึดอัด - คับข้อง - อารมณ์คุกรุ่น ”  จากปากท่านนายก .! และการกระทำของท่านนายกรัฐมนตรีโดยพลัน .!! “ การโกงความยุติธรรม ”  ไปจากชีวิตคนไทยโดยใช้  “ กฎหมาย ”  และอำนาจหน้าที่ .! คือการทำลายความเ

การปรับคณะรัฐมนตรีของ"บิ๊กตู่"  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่กำลังวุ่นอยู่กับการ "แย่งชามข้าวกัน".! มาถึงวันนี้ต้องบอกว่า "บิ๊กตู่" เชื่อว่าตัวเองเอาอยู่.!คุมทุกอย่างให้เดินไปตามเกมที่กำหนด.!อยู่ในมือทั้งบริหาร เกมการเมือง และการสะกดพรรคพลังประชารัฐ.!?ไม่ให้ปั่นป่วน.!ดังนั้นก็ไม่แปลกที่ “บิ๊กตู่” จะออกตัวว่าการเมืองมีปัญหาเยอะ แต่ก็ยัง "สู้ไหว" ตอนแรกเห็นรายชื่อทั้ง  4  คน   ที่   พรรคพลังประชารัฐ ( พปชร .) เสนอให้ " บิ๊กตู่ " ( พล . อ . ประยุทธ์   จันทร์โอชา  ) นายกฯ   พิจารณาแล้ว .!  ไม่ว่าจะเป็น  “ สุริยะ   จึงรุ่งเรืองกิจ -  อนุชา   นาคาศัย -  สุชาติ   ชมกลิ่น ”  และ  “ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ”  เห็นแล้วต้องร้อง  “ ยี้ ”  กันเลยทีเดียว .!?? พูดถึง  " สุริยะ "  ก็ต้องพูดถึงอีกหนึ่งในสองมิตร  " สมศักดิ์   เทพสุทิน "  ผู้ที่เป็นมันสมอง   สู้อุตส่าห์คิดและวางแผนอยู่เบื้องหลัง .! ที่ผลักดัน  " สุริยะ "  งานนี้  " สุริยะ "  ส่อเค้าแห้วหลุดเก้าอี้รมว . พลังงาน   ที่หมายปอง .!? แต่ไม่พอทั้ง  &

ปิดฉาก  6  ปีที่  “ สมคิด   จาตุศรีพิทักษ์ ”  รองนายกรัฐมนตรี   หัวหน้าทีม  4  กุมาร   รับบท  “ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ”  รัฐบาล   เป็นขุนพลคู่ใจ   พล . อ . ประยุทธ์   จันทร์โอชา   นายกรัฐมนตรี   ตั้งแต่ยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  ( คสช .).! ต่อเนื่องมาจนถึงรัฐบาลเลือกตั้ง .!? แต่เมื่อการเมืองเปลี่ยน  “ สมคิด -4  กุมาร ”  ต้องกลับไปพักผ่อนที่บ้านเก่า .!!  เพราะโดนนักการเมืองเขี้ยวลากดิน   มากด้วยบารมี เบียดออก .!? ตอนเข้ามาร่วมเป็นกุนซือ รัฐบาล  " สมคิด "  ได้ดึงเด็กในสังกัดเข้ามาร่วมงานรัฐบาล .! ก็เพื่อสร้างผลงาน   กลบกระแส  “ รัฐบาลทหาร ”.! เพราะหากย้อนกลับไปดู   รัฐบาล   บิ๊กตู่  1/1  มีแต่ภาพ  “ ทหาร ”  นั่งคุมกระทรวงสำคัญเกือบทั้งหมด .! ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงเศรษฐกิจ    กระทรวงพาณิชย์   กระทรวงเกษตรและสหกรณ์   กระทรวงพลังงาน   กระทรวงคมนาคม   ล้วนมีแต่  “ บิ๊กทหาร ”  เป็นเจ้ากระทรวง .!?? จึงทำให้การทำงานติดขัดอย่างมาก .! ในที่สุด  " บิ๊กตู่ "  ก็เชื่อคำแนะนำของ  “ สมคิด ”  ทยอยปรับเปลี่ยนสร้างภาพจากรัฐบาลลายพราง .! มาเป็นรัฐบาลพรางลาย  " ฉาบ "  ด้วยเทคโนแครต