วิระชัย"ควง"บิ๊กโจ๊ก"ลุยทลายแก๊งเจ้าหนี้นอกระบบ3จว.5เครือข่าย9จุดตรวจยึดทรัพย์สิน 57.2 ล้านบาท
วิระชัย"ควง"บิ๊กโจ๊ก" เปิดยุทธการเด็ดทลายแก๊งเจ้าหนี้นอกระบบ 3 จว. 5 เครือข่ายตรวจยึด/อายัดทรัพย์มูลค่า 91,763,429 ล้าน ช่วยประนอมหนี้ให้ลูกหนี้
วันที่ 27 ธ.ค.64 จ.อุดร พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เป็นผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผู้ช่วย ผบ.ตร.รองผู้อำนวยการศูนย์ฯ พล.ต.ต.ญาณพงศ์ โสมาภา รอง ผบช.บช.ศ. พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล รอง ผบช.กมค.ตร. ,พ.ต.อ.สุรพันธ์ มั่งคงดี รอง ผบก.บก.ปพ./หน.ชุด ศปน.ตร.ชุด 7 ดำเนินการภายใต้ยุทธการ "สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ หยุดการข่มขู่เอารัดเอาเปรียบประชาชน" ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปิดล้อมตรวจค้นกลุ่มนายทุนเงินกู้นอก ระบบที่เอารัดเอาเปรียบประชาชนในพื้นที่จังหวัดเลย อุดรธานี และนครราชสีมา ซึ่งมีเป้าหมายกลุ่มนายทุน 5 เครือข่ายเข้าปิดล้อมตรวจค้น 9 จุดตรวจจากการเข้าตรวจค้น
จุดแรก เข้าตรวจค้น ที่บ้านเลขที่ 47 ม.2 ต.บุฮม อ.เชียงคาน จ.เลย ควบคุม น.ส.ศิริพร ทองลุน ตามหมายศาลจังหวัดเลย และเข้าค้นต่อ ที่บ้านเลขที่8/5 ม.4 ต.เชียงคาน อ.เมืองเลย จ.เลย ควบคุมนายอลงกรณ์ ผานามอญ ตามหมายศาล เนื่องจากถูกร้องเรียนคิดอัตราดอกเบี้ยโหดร้อยละ 20 ต่อ 24 วัน โดยอายัด รถยนต์3 คัน จยย.2 คัน ทรัพย์สินรวม 3.4 ล้าน พบมีเงินหมุนเวียน 18.2 ล้าน
ส่วนที่จังหวัดอุดรธานี ตำรวจได้อายัด รถยนต์ จยย. 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รวม 3.8 ล้าน จับกุม นายอลงกร ผานามอญ อายุ 34 ปี และ นายโชคสวัสดิ์ ลีเพ็ญ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเลย ที่ 185/2564 ในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ให้บุคคลอื่นยืมเงิน หรือกระทำการใด ๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางให้กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนดรวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดที่ดำเนินการในวันนี้ 57.2 ล้านบาท
พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่าปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ และได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างบูรณาการและยั่งยืน โดยสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายดำเนินการปราบปราม กระทำความเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง ซึ่ง ตร. ได้จัดตั้งศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ (ศปน.ตร.) ให้มีภารกิจหน้าที่ในการปราบปรามผู้มีอิทธิพลหรือบุคคลที่ให้ประชาชนกู้ยืมเงินโดยผิดกฎหมาย หรือมีลักษณะเป็นการทำสัญญาเอารัดเอาเปรียบประชาชน โดยพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ออกคำสั่งปรับเปลี่ยนผู้รับผิดชอบงานด้านการปราบปรามหนี้นอกระบบ โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.วิระชัย มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบเป็น ผอ.ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ (ศปน.ตร.) และก่อนหน้านี้ชุด ศปน.ตร.ได้ทำการจับกุมได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสิ้น 308 รายมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดมาได้ 34,563.429 บาทช่วยเหลือลูกหนี้ 463 ราย วันนี้ได้จับกุมผู้ต้องหาเพิ่ม 2 รายมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้ 57.2 ล้านบาทช่วยเหลือลูกหนี้ 51 ราย จับกุมผู้ต้องหา 310 รายมูลค่า 91,763,429 ล้านบาทช่วยเหลือลูกหนี้รวมทั้งสิ้น 514 ราย
ด้าน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า การเข้าตรวจค้นจับกุมเจ้าหนี้นอกระบบโดยไม่ได้จดทะเบียนเป็นผู้ให้สินเชื่อ ทาง ศปน.ตร. ได้กำหนดกลยุทธ์ให้ชุดปฏิบัติการต่างๆวางแผนเพื่อตัดวงจรกลโกงของนายทุนเงินกู้นอกระบบ ซึ่งฝ่ายผู้ปล่อยกู้เอาเปรียบประชาชนมักมีขั้นตอนต่างๆ ในหลายรูปแบบเช่น ทำนิติกรรมสัญญา โดยได้รับเงินไม่ตรงกับสัญญา โดยอ้างกับผู้กู้ต้องหักค่าธรรมเนียม หรืออื่นๆ เป็นจำนวนมาก ใช้ความรู้ทางกฎหมายเอารัดเอาเปรียบชาวบ้านในลักษณะต่างๆ อ้างว่าเดี๋ยวดูแลเอกสารทุกอย่าง ให้เซ็นลายมือชื่อในสัญญากระดาษเปล่าโดยไม่มีรายละเอียด หลอกว่าเพิ่มวงเงินกู้ให้ แต่ให้มารับเงินในวันหลัง บังคับทำสัญญาขายฝากที่ดินไว้ และให้ลูกหนี้เช่าที่ดินของตนเอง เมื่อดอกเบี้ยเพิ่มจำนวนมาก บังคับให้ลูกหนี้ทำสัญญาเงินต้นรวมกับดอกเบี้ยเป็นสัญญาฉบับใหม่ /ทำสัญญาอำพรางเงินกู้ (หลีกเลี่ยงการให้กู้โดยตรง) เช่นกู้เพื่อซื้อทองคำ /แก้ไขตัวเลขเงินกู้ในสัญญาเงินกู้ คนค้ำประกันโดนฟ้องบังคับคดี โดยที่ลูกหนี้ไม่ได้รับเงินไป เมือชำระหนี้ครบตามจำนวน จะมารับโฉนดหรือทรัพย์สินคืน ผลัดวันไปเลื่อยๆ จนดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้นมาก
พล.ต.อ.วิระชัย ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า ศปน.ตร.เปิดยุทธการปราบปรามจับกุมเจ้าหนี้นอกระบบ ผิดกฎหมาย ในครั้งนี้เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบที่ถูกฉ้อฉล หรือถูกเอารัดเอาเปรียบจากเจ้าหนี้โดยมิชอบด้วยกฎหมายทั่วประเทศ ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติสำคัญ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน หากประชาชนต้องการแจ้งเบาะแส สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชั้น 3 อาคาร 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ถนนสาทรเหนือ เขตบางรัก กรุงเทพฯ หรือโทรศัพท์ สายด่วน 1599 หรือที่สถานีตำรวจทุกแห่ง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น