สืบ!!ดอนเมือง รวบ สองฟ้า ทองทาบ ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ทั่วทุกพื้นที่
จากกรณีมีผู้เสียหายได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมืองว่า เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ได้ถูก นายสองฟ้า ทองทาบ บ้านเลขที่ ๕๖ หมู่ ๑ แขวงน้ำอ้อม อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ได้มาหลอกหลวงผู้เสียหายสูญเงินเกือบ ๔๐ล้านบาท โดยใช้กลอุบายที่ทำให้ตนเองดูน่าเชื่อถือและมาทำการซื้อขายสินค้าโดยต้องให้ผู้ต้องหาโอนเงินมัดจำมาก่อน เมื่อได้เงินมัดจำแล้วก็ผลัดการส่งสินค้ามาตลอดจนไม่สามารถติดต่อได้ทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหาย ผู้เสียหายจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ให้ดำเนินคดี นายสองฟ้า ทองทาบฝ่ายสืบสวนพร้อมฝ่ายสอบสวน สน.ดอนเมือง จึงได้ร่วมมือกันสืบสวนและสอบสวนหาพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้สามารถพิสูจน์จนเชื่อได้ว่านายสองฟ้า ทองทาบ มีความผิดตามที่ผู้เสียหายกล่าวหาจริง จนนำไปสู่การออกหมายจับและทำการจับกุม นายสองฟ้า ทองทาบ พร้อมกับพวก ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดในครั้งนี้
กองบังคับการตำรวจนครบาล ๒ โดย พล.ต.ต.อัศวยุทธ นุชพุ่ม ผบก.ประจำ บช.น. รรท.ผบก.๒,พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีสวัสดิ์ รอง ผบก.น.๒,พ.ต.อ.รังสรรค์สอนสิงห์ ผกก.สน.ดอนเมือง,พ.ต.ท.อดิเรก ทองแกมแก้ว รองผกก.สส.สน.ดอนเมือง , พ.ต.ต.วุฒิชัย บุญยู้ สว.สส.สน.ดอนเมือง พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาโดยมีรายละเอียดดังนี้
เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวนสน.ดอนเมือง ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนร้าย คือ นายสองฟ้า ทองทาบ พร้อมกับพวก ได้ติดต่อเข้ามาเจรจาขายถุงมือยี่ห้อ “พริวโกรบ” และมีการพูดคุยจนทำให้ตนเองดูน่าเชื่อถือโดยอ้างว่า ตนเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ไทฟูหลาย จำกัด มีทุนในการจดทะเบียนเป็นจำนวนเงินอยู่ที่ ๓๐๐ ล้าน เมื่อผู้เสียหายไปทำการเช็คข้อมูลที่คนร้ายให้มากับกระทรวงพาณิชย์ ก็พบว่าเป็นจริงอย่างที่คนร้ายกล่าวอ้าง จึงทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและตกลงทำการซื้อขายถุงมือฯ กับนายสองฟ้าฯ โอนผู้เสียหายได้ส่งมอบเงินมัดจำเป็นเงินประมาณ ๓๙ ล้านบาท ในการซื้อขายครั้งนี้ ต่อมาเมื่อถึงนัดส่งมอบสินค้า นายสองฟ้าฯ ก็ได้ทำการผลัดการส่งสินค้า และทำการผลัดเรื่อยมา จนผู้เสียหายไม่สามารถติดต่อกับนายสองฟ้าฯ ได้ ผู้เสียหายจึงได้ไปแจ้งความร้องทุกข์มอบคดีให้แก่พนักงานสอบสวนและแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวนจึงได้ร่วมมือช่วยกันหาพยานหลักฐานและพิสูจน์ข้อเท็จจริงในคดีนี้ โดยผลการสืบสวนและสอบสวนปรากฏว่า นายสองฟ้า ทองทาบ เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัทไทฟูหลาย จำกัด ที่จดทะเบียนถูกต้องกับกระทรวงพาณิชย์ โดยบริษัทฯ ได้เริ่มจดทะเบียนเมื่อปี ๒๕๖๑ โดยใช้ทุนจดทะเบียน ๑ ล้านบาท ต่อมาในปี ๒๕๖๒ เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็นจำนวนเงิน ๕ ล้านบาท และในปี ๒๕๖๓ เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็นจำนวนเงิน ๓๐๐ ล้านบาท โดยข้อเท็จจริงต่อมาบริษัทฯ ก็ได้โพสประกาศเพื่อแสดงความน่าเชื่อถือว่าบริษัทฯ ของตนมีทุนจดทะเบียนอยู่ถึง ๓๐๐ ล้านบาท และได้ไปทำการซื้อขายถุงมือทางการแพทย์ ยี่ห้อ “พริวโกรบ” กับผู้เสียหาย โดยอ้างว่าบริษัทฯ ตนกับบริษัท พริวโกรบ จำกัด เป็นเครื่อข่ายเดียวกันติดต่อซื้อขายกันตลอด แต่แท้จริงแล้วไม่ได้ทำการติดต่อกันแต่อย่างใด และได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายสองฟ้าฯ ก็พบว่ามีเงินจำนวน ๓๙,๕๓๔,๔๘๕.๑๔ บาท โอนจากผู้เสียหายไปให้นายสองฟ้าฯ (บัญชีของบริษัทไทฟูหลายฯ) จริง และนายสองฟ้าฯ ก็ได้ถอนเงินจำนวนดังกล่าว ด้วยตนเอง โดยจะไปถอนเป็นเงินสดที่ ธนาคารในย่านตลาดไท ทีละ ๒ ล้านบาท จำนวน ๑๕ ครั้ง เมื่อผลการสืบสวนสอบสวนปรากฏผลเป็นเช่นนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวนสน.ดอนเมือง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุญาตศาลออกหมายจับตาม หมายจับศาลแขวงดอนเมือง ที่ ๕๙/๒๕๖๔ ลงวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๔ และต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวน ยังได้ตรวจสอบหลักฐานการจดทะเบียนและทุนการจดทะเบียนว่าถูกต้องหรือไม่
โดยตอนนี้อยู่ในระหว่างดำเนินการตรวจสืบโดยจากการดูเบื้องต้นน่าเชื่อว่าหลักฐานในการจดทะเบียนและทุนการจดทะเบียนไม่ถูกต้อง โดยต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ดอนเมือง สอบทราบมาว่า นายสองฟ้าฯ ที่ตอนนี้กำลังหลบหนีอยู่ ไปปรากฏตัวที่ร้านอาหารในอำเภอหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงได้ประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.๓ บก.สส.ภ.๗ เพื่อเข้าทำการตรวจสอบ ผลการตรวจสอบปรากฏว่า เป็นนายสองฟ้า ทองทาบ ผู้ต้องหาตามหมายจับจริงเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.๓ บก.สส.ภ.๗ จึงได้แสดงหมายจับทำการจับกุมตัวและนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไปและเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลประวัติ นายสองฟ้า ทองทาบ เพิ่มเติม ปรากฏรายละเอียดคือ
๑.ผู้ต้องหาเคยต้องคดีในความผิดข้อหา “ปลอมเอกสารฯ” ที่ สน.บึงกุ่ม บก.น.๔ บช.น. เลขคดีที่ ๗๖๗/๒๕๔๙ ตามประจำวันข้อ ๕ ลงวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๙
๒.ผู้ต้องหาเคยต้องคดีในความผิดข้อหา “ยักยอกทรัพย์ฯ” ที่ สภ.คลองหลวงจ.ปทุมธานี เลขคดีที่ ๒๐๙๑/๒๕๕๖ ตามประจำวันข้อ ๗ ลงวันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖
๓.ผู้ต้องหาเคยต้องคดีในความผิดข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงฯ” ที่ สน.โคกคราม บก.น.๒บช.น. เลขคดีที่ ๙๕๔/๒๕๕๙ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ดอนเมือง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น