แจ้งหมิ่นประมาท 2 พิธีกรดังหมาแก่ กับ แมวสาว
“ ร้อยเอกรชฏ พิสิษฐบรรณกร นำกลุ่มทุนไทย กลุ่มทุนจีน เข้าไปเทคโอเวอร์ บริษัทสหมงคลประกันภัย” ซึ่งไม่เป็นความจริง ความจริงคือ ร้อยเอกรชฏ พิสิษฐบรรณกรและบริษัทรชฏ กรุ๊ป จำกัด ได้ซื้อกิจการและหุ้นทั้งหมดของบริษัทสหมงคล ประกันภัยจำกัด(มหาชน) มาจากผู้ถือหุ้นเดิมเรียบร้อยแล้ว ถึงจะทำการขายหุ้นให้นางสาวหลูหวินเฉิน สัญชาตจีน ต่อมานางสาวหลูหวินเฉิน เป็นฝ่ายผิดสัญญาไม่ชำระค่าซื้อขายหุ้นและทำผิดระเบียบข้อบังคับบริษัทสหมงคล ประกันภัย นางสาวหลู หวินเฉินกับพวกจึงไม่ใช่ผู้ถือหุ้นของบริษัทสหมงคลประกันภัย อีกต่อไป และยังกล่าวหาอีกหลายประเด็นดังนี้
1. ขายทรัพย์สินบริษัท ต่ำกว่าราคาตลาด โดยระบุว่าเป็นตึกที่ตั้งบริษัทสหมงคลประกันภัย ที่ซอยรัชดาภิเษก 20 ซึ่งในส่วนนี้ไม่เป็นความจริง ร้อยเอกรชฏ ไม่เคยขายทรัพย์สินบริษัท ทรัพย์สินดังกล่าวเป็นอาคารเช่า
2. ขายหลักทรัพย์ ไม่ได้รับอนุมัติ จากคณะกรรมการ ในส่วนนี้ร้อยเอกรชฏ พิสิษฐบรรณกรและนายธนากร ภัทรกองเกตุ ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการการลงทุนเรียบร้อย
3. ทำสัญญาซื้อบริการปลอม ในส่วนนี้พิธีกรเสนอข่าวว่าไม่มีเนื้องานจริง ปลอมขึ้นมาต้องการเอาเงินออก ซึ่งความจริงแล้วมีการทำงานจริง คู่สัญญามีเอกสารส่งมอบงานทุกเดือนจริง
4. จ่ายเงินทดรองจ่าย ให้บุคคลภายนอก บริษัทสามารถทำได้และการจ่ายเงินทดรองจ่ายตามข่าวนั้นเป็นการทดรองจ่ายให้กับคู่ค้าซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท
5. ตีเช็คเงินสด ไม่ขีดคร่อม ในส่วนนี้พิธีกรทั้งสองนำเสนอโดยใช้ถ้อยคำว่าไซฟ่อนเงินชัดๆ ซึ่งไม่เป็นความจริง การดำเนินการธุรกิจเป็นไปตามระบบของบริษัท การที่พิธีกรทั้งสองนำเสนอข่าวชี้นำให้ประชาชนเข้าใจแบบนี้ เป็นการใส่ความนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
6.ให้บุคคลภายนอกกู้เงิน ไม่มีหลักประกัน ในส่วนนี้ร้อยเอกรชฏ พิสิษฐบรรณกร และนายธนากร ภัทรกองเกตุ ไม่ได้ให้บุคคลภายนอกกู้ พิธีกรทั้งสองคนนำเสนอข่าวโดยไม่รู้ข้อเท็จจริงเป็นการให้ร้ายร้อยเอกรชฏ พิสิษฐบรรณกร และนายธนากร ภัทรกองเกตุ ได้รับความเสียหาย ปัจจุบันบริษัทสหมงคลประกันภัย จำกัด(มหาชน) มีทรัพย์สินรวมมากกว่า 1,000 ล้านบาท และดำเนินธุรกิจประกันภัยมายาวนานกว่า 70 ปี
จากการนำเสนอข่าวของพิธีกร ที่นำเสนอข่าวแต่เพียงด้านเดียวอีกทั้งยังชี้นำและนำความคิดเห็นส่วนตัวและอารมณ์ส่วนตัวเข้าร่วมในการเสนอข่าว กล่าวหา ร้อยเอกรชฏพิสิษฐบรรณกร และนายธนากร ภัทรกองเกตุ ให้ได้รับความเสียหาย ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และยังส่งผลสะท้อนให้ผู้เอาประกันภัยขาดความเชื่อมั่นในบริษัท อันเป็นการหมิ่นประมาณโดยการโฆษณาและนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น