สตม.เข้มงวดทุกช่องทางเข้าออก สกัด ‘โควิด’เมียนมาลามเข้าไทย
ทีมโฆษก สตม. เผย “ผบช.สตม.” สั่งทุกด่านเข้มงวดทุกช่องทางเข้าออก สกัด “โควิด-19” จากเมียนมาลามเข้าไทย ระบาดระลอก2 คาดโทษพบ จนท.เอี่ยวลอบขนต่างด้าวเข้าเมือง ฟันไม่เลี้ยง
28 สิงหาคม 2563 ที่กองงานโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รอง ผบช.สตม. และโฆษก สตม. , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1 และรองโฆษก สตม. , พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2 และรองโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. มีความห่วงใยอย่างยิ่ง ในเรื่องการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในสาธารณรัฐ
แห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งพบผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รัฐบาลเมียนมาสั่งล็อกดาวน์เมืองซิตตเวอย่างไม่มีกำหนด ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดในจังหวัดชายแดนที่มีพื้นที่ติดต่อกับชายแดนของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รอง ผบช.สตม. รรท.ผบช.สตม. ออกคำสั่งเป็นหนังสือสั่งการให้หน่วยงานในสังกัด สตม.ปฏิบัติ และกำชับการปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้ ให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบ และป้องกันคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ทั้งช่องทาง จุดผ่านแดนถาวร , จุดผ่อนปรนทางการค้า , จุดผ่อนปรนพิเศษ และช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดน โดยให้บูรณาการกับหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
นอกจากนี้ ให้สืบสวน หาข่าวการกระทำในลักษณะเป็นขบวนการนำพา เป็นนายหน้า และดำเนินการบังคับใช้กฎหมายและขยายผลไปถึงผู้เกี่ยวข้องทุกราย ทั้งในระดับพื้นที่ และทางสื่อ Social Media เช่น Facebook , Line และสื่อต่างๆ รวมถึงกำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับตรวจสอบและควบคุมการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด และห้ามมิให้มีกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจในปกครอง เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเข้าเมืองผิดกฎหมายของคนต่างด้าว หากพบการกระทำผิด จะพิจารณาดำเนินการทางอาญา และทางวินัย โดยเฉียบขาดทุกกรณี
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น